วินิซิอุส จูเนียร์ ยิงประตูชัย พาราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เชือด หงส์แดง ลิเวอร์พูล ในนัดชิง ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 0-1 คว้าแชมป์สมัยที่ 14 ไปครองได้สำเร็จ
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2021-22 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 28 พ.ค. 65 ที่สนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ พบกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จากสเปน
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 18 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นก่อน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ไม่ผ่าน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ถัดมานาทีเดียว เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ของหงส์แดง ยิงด้วยขวาจากนอกเขตโทษ บอลข้ามคานออกไป
จากนั้นนาทีที่ 21 ลิเวอร์พูล เกือบขึ้นนำ เมื่อ ซาดิโอ มาเน พลิกยิงด้วยขวาในเขตโทษ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดไปชนเสาก่อนตามคว้าได้ ถึงนาทีที่ 44 เรอัล มาดริด ชวดได้ประตู จากจังหวะที่ คาริม เบนเซมา ยิงในเขตโทษเข้าไปตุงตาข่าย แต่วีเออาร์เช็กว่าล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ก่อนจบครึ่งแรก เสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลังในนาทีที่ 59 กลายเป็น “ราชันชุดขาว” ที่เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 ในจังหวะตัดบอลได้ตรงกลาง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ รับบอลทางขวาแหวกเข้าเขตโทษก่อนอัดเลียดมาเสาไกลเข้าทาง วินิซิอุส จูเนียร์ สอดมาชาร์จเข้าไปสบายๆ
นาทีที่ 64 ลิเวอร์พูล พยายามตามทวงคืน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาจี้เข้าเขตโทษโยกตัดเข้าในได้ช่องปั่นด้วยซ้ายหวิดโค้งเสียบเสาไกลติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ อีกเช่นเคย
10 นาทีสุดท้ายโหมเป็นพายุ ดิโอโก้ โชต้า ตัวสำรองโฉบมาเปลี่ยนทางก็ยังติดเซฟ ก่อนเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอาชนะ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ หลุดเข้าไปล่อเป้าด้วยขวาติดแขน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดออกหลังอีกครั้ง
จบเกม เรอัล มาดริด เอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกสมัยที่ 14 ไปครองได้สำเร็จ
