แมตช์ พรีวิว สเปอร์ส vs ลิเวอร์พูล

 

แมตช์ พรีวิว สเปอร์ส vs ลิเวอร์พูล ( ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ )

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2562 เวลา 02.00 น. 

สนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน เมือง มาดริด ประเทศ สเปน

ถ่ายทอดสด SuperSports 3 ( ช่องดาวเทียม )

ผลการพบกันล่าสุด

31/03/2019  ลิเวอร์พูล 2-1 สเปอร์ส
15/09/2018  สเปอร์ส 1-2 ลิเวอร์พูล

ความพร้อมและสภาพทีม

สเปอร์ส

ความพร้อมเกมนี้ บรรดาแกนหลักที่ไม่สมบูรณ์ก่อนหน้านี้ ต่างกลับมาฟิตสมบูรณ์กันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แฮร์รี่ เคน (ข้อเท้า), แยน แฟร์ต็องเก้น (ข้อเท้า), แฮร์รี่ วิงค์ส (โคนขาหนีบ) และ ดาวินซอน ซานเชซ (ต้นขา) ซึ่งคาดว่าแฟร์ต็องเก้นจะกลับมาเป็นตัวจริงทันที  

แต่ในรายของเคนอยู่ที่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายของ ”พอช” ว่าจะให้ออกสตาร์ตเลยหรือเป็นทีเด็ดบนม้านั่งสำรองไปก่อน ส่วนวิงค์สก็มีลุ้นเบียด วิคเตอร์ วานยาม่า ลงตัวจริงเช่นกัน

คาดว่ากุนซือไก่เดือยทองน่าจะยึดทีมจากเกมรอบตัดเชือก นัด 2 ที่บุกไปเชือดอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 3-2 แบบสุดดราม่าเป็นหลักต่อไป นำโดย โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, มุสซ่า ซิสโซโก้, คริสเตียน เอริคเซ่น, ซน ฮึง-มิน และ ลูคัส มูร่า แฮตทริกฮีโร่จากเกมดังกล่าว

ลิเวอร์พูล

สภาพทีมเกมนี้ คล็อปป์ยืนยันแล้วว่า นาบี เกอิต้า กองกลางกินีที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขามาตั้งแต่เกมรอบรองฯ นัดแรกที่แพ้บาร์เซโลน่า 0-3 ชวดแน่นอน

แต่ในรายของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เจ็บกล้ามเนื้อเช่นกันและพลาด 3 เกมหลังสุด อาการดีขึ้นเป็นลำดับและมีลุ้นเบียด ดิว็อค โอริกี้ กลับมาออกสตาร์ตตามปกติ  

นอกจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมจัดเต็มเหมือนเดิม นำโดยแกนหลักอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส – คีแรน ทริปเปียร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเก้น, แดนนี่ โรส – มุสซ่า ซิสโซโก้, วิคเตอร์ วานยาม่า (แฮร์รี่ วิงค์ส) – คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน – ลูคัส มูร่า

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่  

ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวาเกีย)

ความน่าจะเป็นของเกม

สภาพทีมทั้งสองฝ่ายอยู่ในระดับที่สูสี เพราะมีเวลาเตรียมตัวหลังปิดฤดูกาลกว่าสองสัปดาห์โดย สเปอร์ส ได้ แฮร์รี่ เคน กลับมาเป็นทีเด็ด แม้อาจเป็นสำรองไปก่อน ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็มาเต็ม ถ้าวัดกันเรื่องของประสบการณ์ในการเข้าชิงฟุตบอลยุโรปแล้ว ทีมงานของ คล็อปป์ เหนือกว่า โดยสถิติการดวลกันช่วงหลังก็เอนมาทางลิเวอร์พูล โดย 14 หนหลังพ่ายนัดเดียวและเชื่อว่าระบบการเล่นที่ลงตัวกว่า ทั้งหน้า, กลาง และหลัง เกมนี้หงส์แดงน่าจะเบียดเข้าวินซิวแชมป์ถ้วยใหญ่ไปครองได้ในที่สุด

ผลการแข่งขันที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1