ชัยชนะเหนือ ไบรท์ตัน กับการนับถอยหลัง 9 นัดสุดท้ายของ ลิเวอร์พูล สู่การลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2023/24

 

ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ก้าวขึ้นมารั้งจ่าฝูงแบบเต็มตัวหลังเปิดรัง แอนฟิลด์ พลิกกลับมาเอาชนะ ไบรท์ตัน แบบสุดระทึก 2-1 ในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ในเกมนี้ ลิเวอร์พูล โดน ไบรท์ตัน ของ โรแบร์โต เด แซร์บี้ กุนซือชาวอิตาเลียน ยิงขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจาก เดนนี เวลเบ็ค แต่ก็สามารถตามตีเสมอจาก หลุยส์ ดิอาซ และยิงประตูชัยได้สำเร็จจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์

มันนับเป็นครั้งที่ 13 ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ที่ ลิเวอร์พูล โดนคู่แข่งขึ้นนำไปก่อน ซึ่งส่งผลให้ทีมของ คล็อปป์ ต้องพบกับความยากลำบากในการเล่น และหาทางเจาะแนวรับ ไบรท์ตัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาคุ้นเคยกับกับการเป็นฝ่ายตามหลังอยู่แล้ว และเกมนี้พวกเขาก็แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า สามารถกลับมาเก็บชัยชนะได้

ในเกมนี้ หลายคนตั้งตำถามถึงผลงานของ ซาลาห์ หลังจากมีโอกาสมากมาย แต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย จนกระทั่ง ดาวเตะชาวอิยิปต์ ซัดประตูชัยได้สำเร็จ และยังคงแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่ตัวเองมีต่อทีมตลอดทั้ง 90 นาที

ขณะเดียวกัน นักเตะดาวรุ่งอย่าง จาร์เรลล์ ควอนซาห์ และ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ก็สมควรได้รับคำชมอย่างมากผลงานแข็งแกร่งทางแนวรับฝั่งขวาที่ต้องรับมือกับ ไซม่อน อดินกร้า ปีกดาวรุ่งของ ไบรท์ตัน ที่มีความเร็วจัด

แน่นนอนว่า การรับมือกับ ตัวริมเส้นที่มีความเร็ว และเทคนิคยอดเยี่ยมอย่าง อดินกร้า นั้น มันเป็นเรื่องยากสำหรับ แบรดลีย์ ในตำแหน่งแบ็คขวา และ ควอนซาห์ ที่ยืนเป็นกองหลังตัวกลางฝั่งขวา แต่ทั้งคู่ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างแข็งแกร่งตลอดทั้งเกม

ผู้เล่นอีกรายของ ลิเวอร์พูล ที่สมควรได้รับคำชมก็คือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการคว้าชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ หลังจากโชว์ผลงานด้วยการทำ 1 แอสซิสต์ พร้อมกับคว้ารางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” ไปครอบครอง

ลิเวอร์พูล เหลือการแข่งขันใน พรีเมียร์ลีก ซีซันนี้อีกเพียง 9 เกม และพวกเขาต้องเดินหน้าเก็บชัยชนะให้ได้ทั้งหมดหากหวังจะคว้าแชมป์ และการที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เสมอกับ อาร์เซนอล 0-0 ในคู่ดึกนั้น ก็เป็นผลดีสำหรับ “หงส์แดง”

 

โดย 9 นัดดังกล่าวประกอบด้วย

เหย้า – เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
เยือน – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เหย้า – คริสตัล พาเลซ
เยือน – ฟูแลม
เยือน – เวสต์แฮม
เหย้า – สเปอร์ส
เยือน – แอสตัน วิลลา
เหย้า – วูล์ฟแฮมป์ตัน

ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล นำจ่าฝูงโดยมีแต้มนำหน้า อาร์เซนอล ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า และ “แมนฯ ซิตี้ ของเทรนเนอร์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 2 และ 3 คะแนนตามลำดับ ซึ่งเป็นสถานะที่บรรดาสาวก “เดอะ ค็อป” ควรพอใจสุดๆ

หลังจากนี้ไปทุกเกมของ ลิเวอร์พูล มันจะเหมือนนัดชิงชนะเลิศเลยก็ว่าได้ และพวกเขาไม่ต้องไปลุ้นผลการแข่งขันของทีมอื่นอีกต่อไปแล้ว ซึ่งหากคว้าชัยชนะได้ทั้งหมดมันจะเป็นการส่งท้าย คล็อปป์ ที่สวยงามอย่างมาก