“ลิเวอร์พูล” ทำได้ ต่อเวลาเชือด “เชลซี” คว้าแชมป์คาราบาว คัพ สมัยที่ 10

 

ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในช่วงต่อเวลาพิเศษ คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ สมัยที่ 10 มาครองได้สำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอลคาราบาว คัพ 2023-24 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ. 67 เป็นการพบกันระหว่าง เชลซี ดวลเดือดกับ ลิเวอร์พูล

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 8 ลิเวอร์พูลได้ทักทายก่อน หลุยส์ ดิอาซ ขึ้นโหม่ง แต่ เปโตรวิช รับได้สบาย

นาทีที่ 12 โอกาสของ เชลซี มาโล กุสโต ได้ยิงแต่ตรงตัว เคลเลเฮฮร์

นาทีที่ 13 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ของลิเวอร์พูล ตั้งป้อมยิงไกล แต่ก็ไม่ดีพอจะเป็นประตู

นาทีที่ 14 หลุยส์ ดิอาซ ได้ยิงในเขตโทษแต่ ยอร์เย เปโตรวิช เซฟไว้ได้เยี่ยม

นาทีที่ 20 โคล พาลเมอร์ ของเชลซี ได้ยิงแต่ติดเซฟ เคลเลเฮอร์

นาทีที่ 31 เชลซี ชวดได้ประตู เมื่อ นิโคลัส แจ็คสัน เปิดบอลจากฝั่งขวาไปเสาไกลให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงเข้าไป แต่ VAR เช็กว่าล้ำหน้า

นาทีที่ 40 โอกาสของลิเวอร์พูล แต่ลูกโหม่งของ โคดี กัคโป ไปขนเสา

จบครึ่งแรก เชลซี ยังเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 ลิเวอร์พูล ทักทายก่อนจาก วาตารุ เอ็นโด ยิงหลุดเสาสองออกไป

จากนั้นนาทีที่ 52 เชลซี ได้ลุ้นบ้างจาก เอ็นโซ เฟอร์นันเดส แต่ยังขึ้นนำไม่ได้

นาทีที่ 58 ลิเวอร์พูล เกือบขึ้นนำ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ วอลเลย์บอลกระดอนพื้น แต่ เปโตรวิช พุ่งปัดออกไปได้

นาทีที่ 63 ลิเวอร์พูล ชวดขึ้นนำเมื่อ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย แต่วีเออาร์เช็กก่อนให้ผู้ตัดสินไปดูจอ และไม่ให้ประตูกับหงส์แดงพราะล้ำหน้า

นาทีที่ 69 หลุยส์ ดิอาซ พาบอลลุยมาจ่ายให้ กัคโป ซัดออกไปไหนก็ไม่รู้

นาทีที่ 76 คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ของเชลซี ยิงไปชนเสาเต็มๆ

นาทีที่ 86 คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ยิง แต่ เคลเลเฮร์ เซฟได้

นาทีที่ 87 กัลลาเกอร์ เติมมายิงอีกครั้ง ก็ข้ามคานไปอีก

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+2 เชลซี ระดมยิง แต่ เคลเลเฮอร์ ยังเอาอยู่

จบ 90 นาที เชลซี ยังเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ

นาทีที่ 94 ลิเวอร์พูล เกือบขึ้นนำ เจย์เดน แดนน์ส ได้โหม่ง แต่ เปโตรวิช บินปัดออกไปได้

นาทีที่ 99 ลิเวอร์พูล เกือบได้อีกแล้ว ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ วอลเลย์ด้วยซ้าย บอลกระดอนพื้นเข้าข้างหน้าต่าง

นาทีที่ 118 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 จากการโหม่งของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์

จบเกม 120 นาที ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 1-0 คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ มาครองเป็นสมัยที่ 10

 

11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

เชลซี (4-2-3-1) : ยอร์เย เปโตรวิช (GK), มาโล กุสโต, อักเซล ดิซาซี, ลีวาย โคลวิลล์, เบน ชิลเวลล์, มอยเซส ไกเซโด, เอ็นโซ เฟร์นานเดซ, โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง, นิโคลัส แจ็คสัน

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์ (GK), คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิมา โกนาเต, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเวนเบิร์ช, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โคดี กัคโป, หลุยส์ ดิอาซ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/2765998