ยูเครน
เทรนเนอร์ เซอร์เก เรบรอฟ น่าจะได้ อาร์เต็ม ดอฟบิค เป็นตัวชูโรงในแนวรุก โดยดาวยิงวัย 26 ปี ที่เล่นกับ คิโรน่า จ่าฝูงลา ลีกา ทำไปแล้ว 7 ประตูในทีมชาติ
มิไคโล มูดริค ปีก เชลซี ก็น่าจะได้ออกสตาร์ท ขณะที่ ยูคิม โคโนเปลีย อาจถูกใช้งานต่อไปทางด้านขวา
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ของ อาร์เซน่อล จะขึ้นไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง โดยอีก 2 แข้งในพรีเมียร์ลีก อย่าง วิตาลี่ มิโคเลนโก้ และ อิลลิยา ซาบาร์นยี่ ก็จะได้ลงเล่นเช่นกัน
อิตาลี
เทรนเนอร์ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ มีปัญหาในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก โดยทั้ง อเลสซานโดร บาสโตนี่, ราฟาเอล โตลอย และ จอร์โจ้ สคัลวินี่ ต่างบาดเจ็บ
ในรายของ เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่ทำ 2 ประตูในเกมล่าสุดจะได้ลงเล่นทางกราบขวา โดยมี จานลูก้า สคามัคก้า อยู่ตรงกลาง และ สเตฟาน เอล ชาราวี ทางกราบซ้าย
สำหรับ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ และ ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ ก็จะได้ออกสตาร์ทตัวจริงแทนที่ มัตเตโอ ดาร์เมียน และ จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า ที่ได้ลงเล่นตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกในเกมชนะ มาซิโดเนียเหนือ
11 ตัวจริงตามคาด
ยูเครน (4-2-3-1) : อนาโตลี ตรูบิน – โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, อิลลิยา ซาบาร์นยี่ม มิโคล่า มัตวิเยนโก้, วิตาลี่ มิโคเลนโก้ – เซอร์เก ซีดอร์ชุค, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – ยูคิม โคโนเปลีย, จอร์จี้ ซูดาคอฟ, มิไคโล มูดริค – อาร์เต็ม ดอฟบิค
อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า – โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เฟเดริโก้ กัตติ, ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้, เฟเดริโก้ ดิมาร์โก – เดวิเด้ ฟรัตเตซี่, จอร์จินโญ่, นิโกโล่ บาเรลล่า – เฟเดริโก้ เคียซ่า, จานลูก้า สคามัคก้า, สเตฟาน เอล ชาราวี
ผู้ตัดสิน : เฆซุส คิล (สเปน)
สนาม : ไบอารีน่า, เยอรมัน (สนามกลาง)