เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ จิ้งจอกสีน้ำเงิน เลสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบไม่ไว้หน้า 6-3 เก็บสามแต้มครองจ่าฝูงฉลองบ็อกซิ่งเดย์สบายๆ
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ในวันบ็อกซิ่งเดย์ เกมที่น่าสนใจ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ “เดอะ ฟ็อกซ์” เลสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือเรือใบสีฟ้า ส่ง ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง และเควิน เดอ บรอยน์ เป็น 3 ประสานในเกมรุก ส่วน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ทีมเดอะ ฟ็อกซ์ วาง เคเลชี อิเฮียนาโช, อโยเซ เปเรซ และอเดโมลา ลุคแมน เป็น 3 ตัวทีเด็ด
น.5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ แฟร์นันดินโญ่ ยกบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ เกี่ยวบอลลงด้วยขวาในกรอบเขตโทษ ก่อนม้วนเข้าซ้ายแล้วยิงผ่านมือนายทวารทีมเยือนเข้าไป
น.13 แมนฯ ซิตี้ มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ยูริ ตีเลอมองส์ ไปทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ตอนแรกผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้ แต่เมื่อไปดู VAR แล้ว บอลไปโดนมืออย่างชัดเจน และเป็น ริยาด มาห์เรซ ซัดเข้าไปไม่พลาด เจ้าถิ่นขยับนำ 2-0
น.21 “เรือใบสีฟ้า” ที่ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง ก็มาได้ประตูหนีห่างไปอีก 3-0 จากจังหวะการเข้าทำที่สวยงาม และเป็น อิลคาย กุนโดกัน ซัดจ่อๆ เข้าไป
น.24 เจ้าถิ่นยังโหมบุกใส่ทีมเยือน และก็มาได้จุดโทษอีกครั้งจากจังหวะที่ ยูริ ติเลอมองส์ ยื่นเท้าไปเกี่ยว ราฮีม สเตอร์ลิง ในกรอบเขตโทษ และเป็นเจ้าตัวที่ลุกขึ้นมาสังหารเข้าไป เรือใบ ขยับห่างไปอีก 4-0 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ แก้เกมมาได้ดี อาศัยจังหวะที่แนวรับ แมนฯ ซิตี้ ผิดพลาด เจมส์ แมดดิสัน ฉกบอลไปได้ ไหลให้ อิเฮียนาโช ก่อนจ่ายกลับมาให้ แมดดิสัน ซัดเข้าไปง่ายๆ “เดอะ ฟ็อกซ์” ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-4 ในนาทีที่ 54
น.59 เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูไล่มาอีกเป็น 2-4 จากจังหวะที่ อิเฮียนาโช จ่ายทะลุช่องให้ อเดโมลา ลุคแมน หลุดไปในกรอบเขตโทษ ยิงผ่านมือเอแดร์ซอน เข้าไป
น.65 ทีมเยือนได้ประตูไล่มาอีกเป็น 3-4 จากจังหวะที่ เจมส์ แมดดิสัน ปั่นนอกกรอบเขตโทษ เอแดร์ซอน ปัดไปชนคาน ก่อนเด้งมาเข้าทาง เคเลชี อิเฮียนาโช ซ้ำจ่อๆ เข้าไป
น.68 แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูขยับนำ 5-3 จากจังหวะลูกเตะมุม ริยาด มาห์เรซ เปิดมาให้ รูเบน ดิอาส โขกย้อนศรเข้าไป
น.87 แมนฯ ซิตี้ นำห่างไปอีกเป็น 6-3 จากจังหวะลูกเตะมุม ริยาด มาห์เรซ เปิดมาให้ รูเบน ดิอาส โหม่งไปเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดจ่อๆ เข้าไป
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 6-3 คว้าสามคะแนน
จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ “เรือใบสีฟ้า” เดินหน้าเก็บชัยในพรีเมียร์ลีก 9 นัดติดต่อกัน มีเพิ่มเป็น 47 แต้ม จาก 19 นัด ยึดตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง ลิเวอร์พูล 6 คะแนน แต่แข่งขันมากกว่า 1 นัด ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ มี 22 แต้มเท่าเดิม รั้งอันดับ 10
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน (GK), เจา กานเซโล, รูเบน ดิอาส, อายเมริก ลาปอร์ต, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก, แฟร์นันดินโญ่, แบร์นาร์โด ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิล (GK), มาร์ก อัลไบรจ์ตัน, ดาเนียล อมาร์ตีย์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ยูริ ติเลอมองส์, เคียร์นัน ดิวส์บูรี-ฮอลล์, อเดโมลา ลุคแมน, อโยเซ เปเรซ, เคเลชี อิเฮียนาโช
ผลคู่อื่นๆ
นอริช ซิตี้ แพ้ อาร์เซนอล 0-5
สเปอร์ส ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0
เวสต์แฮม แพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-3
