“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี รอดพ้นความปราชัยเกมแรกของศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ไล่ตีเสมอ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงทดเจ็บ 2-2 ด้วยประตูของ รอสส์ บาร์กลีย์ แถมมูรินโญ่หวิดฟาดปากกับสต๊าฟฟ์ของทีมเก่า
พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2018-19
เชลซี 2-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือ เชลซี ส่ง อัลบาโร โมราตา ยืนศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน เอเดน อาซาร์ และ วิลเลียน ล่าตาข่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มี โรเมลู ลูกากู , อองโตนี มาร์กซิยาล , ฆวน มาตา และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นทีเด็ดแนวรุก
เชลซี เดินเกมรุกดุดันกว่า นาที 21 วิลเลียน เปิดเตะมุมฝั่งขวาให้ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ สลัดหนี พอล ป็อกบา ขวิดโล่งๆ เสียบมุมเสาไกล ขึ้นนำ 1-0 ต่อมานาที 47 จอร์จินโญ ตะลุยมาเอง แทงเจาะตรงกลางให้ อัลบาโร โมราตา หมุนตัวยิงด้วยซ้าย ดาบิด เด เคอา นายทวาร รับติดมือ
อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฉวยโอกาส มาร์กอส อลอนโซ นอนเจ็บ ตามตีเสมอ 1-1 นาที 55 จังหวะ มาเตโอ โควาซิช โหม่งเคลียร์ไม่ขาด แอชลีย์ ยัง แบ็กขวา ยิงสวนแถวสองแฉลบ จอร์จินโญ ตั้งให้ อองโตนี มาร์กซิยาล วอลเลย์ด้วยขวาตุงตาข่าย
บดอยู่นาน “สิงโตน้ำเงินคราม” น่าบวกเพิ่มสุดๆ เริ่มจากนาที 66 วิลเลียน เปิดฟรีคิกด้านขวาให้ ดาวิด ลุยซ์ สะบัดโล่งๆ บางเกินไป หลุดกรอบนิดเดียว และนาที 71 เอ็น’โกโล ก็องเต สับไกด้วยขวานอกเขต ดาบิด เด เคอา เหยียดปัดไว้ได้
เข้าสู่นาที 73 “ปิศาจแดง” ตอบโต้ด้วยเกมสวนกลับ ฆวน มาตา แตะบอลหนี ดาวิด ลุยซ์ หลุดกราบขวา ฝากมาที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายเรียดขวางสนามให้ อองโตนี มาร์กซิยาล ปั่นย้อนศรเสียบโคนเสา แซงนำ 2-1
เกมทำท่าจะจบด้วยความพ่ายแพ้ ทว่านาที 90+6 กองเชียร์ “เดอะ บลูส์” ส่งเสียงเฮลั่น เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา แบ็กขวา โยนลึกมาเสาสอง ดาวิด ลุยซ์ โหม่งมุมแคบชนเสาไกล อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ตามซ้ำติดเซฟ ดาบิด เด เคอา ยังไม่พ้นอันตราย รอสส์ บาร์ลีย์ ตัวสำรอง ซ้ำดาบที่ 3 ตีเสมอ 2-2
จากนั้นเกิดเหตุวุ่นวาย มาร์โก ยานนี สตาฟฟ์โค้ช “สิงห์บลูส์” ดีใจสุดขีด ชกลมต่อหน้าต่อตา มูรินโญ จนเกือบปะทะกันบริเวณข้างสนาม ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 14 แต้ม จาก 9 นัด รั้งอันดับ 8 ขณะที่ เชลซี หยุดสถิติไร้พ่ายเป็น 9 เกมรวด มี 21 แต้ม ยึดจ่าฝูงชั่วคราว
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : เกปา อาร์ริซาบาลากา , ดาวิด ลุยซ์ , อันโตนิโอ รูดิเกอร์ , มาร์กอส อลอนโซ , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , จอร์จินโญ , มาเตโอ โควาซิช , เอ็น’โกโล ก็องเต , อัลบาโร โมราตา , เอเดน อาซาร์ , วิลเลียน
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , วิคเตอร์ ลินเดลอฟ , คริส สมอลลิง , ลุค ชอว์ , แอชลีย์ ยัง , ฆวน มาตา , เนมันยา มาติช , พอล ป็อกบา , โรเมลู ลูกากู , อองโตนี มาร์กซิยาล , มาร์คัส แรชฟอร์ด