“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ต้องเผชิญกับซัมเมอร์อันแสนวุ่นวาย เพราะนอกจากจะต้องซื้อนักเตะเสริมทัพ ยังต้องเร่งขายนักเตะส่วนเกินของทีมออกไปเพื่อไม่ให้ผิดกฎควบคุมด้านการเงิน
ซัมเมอร์นี้ เรอัล มาดริด ประกาศคว้าแข้งใหม่แล้ว 2 คนคือ ลูก้า โยวิช กองหน้าเลือดเซิร์บจาก ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ค่าตัว 62 ล้านปอนด์และ เอเดน อาซาร์ ตัวปั้นเกมไซส์เอสจาก เชลซี ค่าตัว 130 ล้านปอนด์ ซึ่งยังเหลือเป้าหมายอีกอย่าง พอล ป๊อกบา กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คริสเตียน อีริกเซ่น มิดฟิลด์ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ดังนั้น ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือสมองใส ต้องมองถึงลู่ทางปล่อยนักเตะที่มีอยู่ออกไปด้วยเพื่อสมดุลด้านการเงินจะได้ไม่ผิดกฎ “ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์” ของ ยูฟ่า อันจะนำมาสู่การลงโทษภายหลัง
เรอัล มาดริด ต้องปล่อยนักเตะออกไป 13 คน โดย 3 คนที่จะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำก็คือ แกเร็ธ เบล, ฮาเมส โรดริเกซ และ มาเตโอ โควาซิช ขณะที่อีก 2 คนคือ อิสโก้ กับ มาร์ติน โอเดการ์ด อนาคตนั้นยังไม่แน่นอน
คนที่ขายทำเงินได้มากที่สุดแต่ก็ขายยากที่สุดเช่นกันคือ เบล ปีกจรวดเลือดเวลส์ โดย เรอัล มาดริด ตั้งเอาไว้ที่ 75 ล้านปอนด์ กระนั้นก็ตามใครจะมายอมจ่ายขนาดนั้นแลกกับนักเตะที่กำลังจะอายุ 30 ปี แถมค่าเหนื่อยก็ระดับ 480,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ โดยมีข่าวว่า แมนฯยู อาจจะขอยืมมากว่า
ซีดาน ปวดหัวกับ เบล ไม่น้อย เพราะว่ามีสัญญาจนถึงปี 2022 ขณะที่ ฮาเมส กับ โควาซิช สัญญาผูกพันจนถึงปี 2021 เรียกได้ว่าหากโละไม่ได้ทั้งหมดก็จะอยู่กินเงินเปล่าๆ สร้างภาระให้ เรอัล มาดริด อีกหลายปีเลย
ดังนั้นจึงเป็นสถานการณ์ที่ลำบากของทั้งนักเตะและเรอัล มาดริด เพราะ เบล ถึงอยู่ต่อไปก็ไม่ได้เล่นอย่างแน่นอน เนื่องจากทีมเพิ่งได้ อาซาร์ มาปั้นเกม ขณะที่ แมนฯยู นั้นก็ต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง เนื่องจากปีหน้าไม่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ถือเป็นโจทย์ที่ ซีดาน ต้องแก้เพื่อระดมเงินทุนให้ได้ 250 ล้านปอนด์ก่อนที่จะซื้อ ป๊อกบา ที่ค่าตัวอยู่ระหว่าง 140-160 ล้านปอนด์ ส่วน อีริกเซ่น น่าจะอยู่ที่ 100 ล้านปอนด์หรืออาจจะไม่ถึง เพราะเหลือสัญญาปีสุดท้าย