แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ทำประตูชัยในช่วงทดเจ็บ พาปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ไปแบบหืดจับ 2-1 ผ่านเข้าสู่ รอบ 5 ศึก เอฟ เอ คัพ อังกฤษ
ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2024/25 รอบสี่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ รูเบน อโมริม กุนซือ “ปีศาจแดง” ตัดสินใจใส่ชื่อ แพทริค ดอร์กู แบ็กซ้ายคนใหม่ ที่เพิ่งย้ายมาจาก เลชเช่ ลงตัวจริงทันที
เริ่มเกมในครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างเล่นอย่างรัดกุม จนกระทั่งช่วงท้ายเกมจะจบครึ่งเวลา นาทีที่ 42 กลายเป็น เลสเตอร์ ที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ เอล คานนูส พาบอลขึ้นฝั่งซ้าย ก่อนตบบอลเข้ากลางให้ วิลเฟรด เอ็นดีดี แปเน้นๆ ซึ่งจังหวะแรก อ็องเดร โอนาน่า เซฟเอาไว้ได้ แต่กลับเป็นการตั้งบอลให้ บ็อบบี เดคอร์โดวา-รีด โหม่งซ้ำแบบจ่อๆ เข้าไป จบครึ่งแรก เลสเตอร์ บุกมานำ 1-0
ครึ่งหลังแมนยู พยายามเร่งเครื่อง หวังทวงประตูคืน มาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 68 จากผลงานของ โจชัว เซิร์กซี ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาโดยตามซ้ำลูกยิงของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ถูกเซฟออกมาเข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1
แมนยู เดินหน้าบุกต่อเนื่อง และนาทีที่ 80 เกือบได้ประตูพลิกนำ จากจังหวะที่ การ์นาโช่ ได้บอลหลุดขึ้นฝั่งซ้าย แต่ดันยิงเข้าข้างตาข่าย
จนกระทั่งเวลาทดเจ็บ นาทีที่ 90+3 แมนยู ได้ประตูชัย 2-1 จากจังหวะได้ลูกฟรีคิกฝั่งซ้าย ซึ่ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดบอลไปที่เสาไกล และเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โหม่งย้อนศรเข้าประตูไป พาทีมเอาชนะ ต้นสังกัดเก่า ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ
11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-2-1) – อ็องเดร โอนาน่า ; นุสแซร์ มาซราวี, แฮร์รี แม็กไกวร์, เลนี โยโร ; ดีโอโก ดาโลต์, มานูเอล อูการ์เต, บรูโน แฟร์นันด์ส, แพทริค ดอร์กู ; อาหมัด ดิยัลโล, ค็อบบี เมนู ; ราสมุส ฮอยลุนด์
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) – แมดส์ เฮอร์มันเซ่น ; เจมส์ จัสติน, เวาต์ ฟาส คาเลบ โอโคลี, ลุค โธมัส ; บูบาการี ซูมาเร, วิลเฟรด เอ็นดีดี้, บ็อบบี เดคอร์โดวา-รีด ; จอร์แดน อายิว, บิลาล เอล คานนูส, แพตสัน ดาก้า
