แมนเชสเตอร์ ซิตี้, บาร์เซโลนา, บาเยิร์น มิวนิก และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คือ 4 สโมสรจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป ที่สามารถเก็บชัยชนะได้ครบทุกนัดในช่วงโค้งแรกของฤดูกาล 2024/25
หลังผ่านโค้งแรกของฤดูกาล 2024/25 มีเพียง 4 ทีมจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรปเท่านั้นที่สามารถเก็บชัยชนะได้ครบทุกนัดที่ลงทำการแข่งขันในเกมลีก
เริ่มจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ออกตัวสมราคาแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 4 สมัยติด โดยพวกเขาได้ เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่โชว์ผลงานระดับมาสเตอร์พีซ จัดไป 2 แฮตทริกจาก 4 นัดแรก สิริรวม 9 ประตู ขึ้นนำดาวซัลโวเดี่ยวๆ
ช่วยให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เป็นทีมเดียวใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่คว้าชัยชนะครบทุกนัด เนื่องจากหอกข้างแคร่อย่าง อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล ต่างก็พลาดท่าทำแต้มหล่นกันไปเป็นที่เรียบร้อย
ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียวว่า “เรือใบสีฟ้า” จะรักษาสถิติชนะรวดได้อีกนานแค่ไหน เพราะสัปดาห์ถัดไปพวกเขาต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ปืนใหญ่” ที่ปัจจุบันรั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนลีกผู้ดี
ถัดมาที่เวที ลาลีกา สเปน ที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บาร์เซโลนา ทีมที่มีปัญหามากที่สุดในตลาดนักเตะรอบที่ผ่านมา กลับกลายเป็นว่าตอนนี้พวกเขาคือทีมที่มีผลงานร้อนแรงมากที่สุดในทวีปยุโรป
ถึงแม้จะพลาดคว้าตัวเป้าหมายหลักอย่าง นิโก วิลเลียมส์ แถมยังเกือบลงทะเบียน ดานี โอลโม ไม่ได้ แต่ ฮันซี ฟลิค ก็โชว์ความสุดยอด พาทีมพลังหนุ่มผ่านมรสุมต่างๆ และผงาดคว้าชัยชนะ 5 นัดรวด
ปัจจุบันทิ้งห่างกลุ่มหัวตารางอย่าง แอตเลติโก มาดริด, เรอัล มาดริด และ บียาร์เรอัล ถึง 4 คะแนน มิหนำซ้ำผลต่างประตูได้เสียของพวกเขาก็ดีกว่าสองทีมจากเมืองหลวงถึง 6 ประตู
สำหรับสถานการณ์ใน บุนเดสลีกา เยอรมัน บาเยิร์น มิวนิก ที่อัดอั้นตันใจจากการร้างความสำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา ก็จัดการเสริมทัพแบบจัดเต็ม ได้มากทั้ง ชูเอา ปาลินญา และ ไมเคิล โอลิเซ สองสตาร์ดังจาก พรีเมียร์ลีก
อีก 1 ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญก็คือการเข้ามาของ แว็งซ็องต์ กอมปานี กุนซือคนใหม่ของทีมที่ถึงแม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ก่อนเริ่มงานพอสมควร เพราะเพิ่งพา เบิร์นลีย์ ตกชั้นมาหมาดๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลังผ่าน 3 นัด เขายังทำได้ตามเป้าที่วางเอาไว้
ปิดท้ายด้วย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยการคว้าชัยชนะรวด 4 นัด แถมยังยิงเฉลี่ยนัดละ 4 ประตู ถือว่าต้องยกความดีความชอบให้กับกุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก แบบเต็มๆ
ในวันที่ไร้ คีเลียน เอ็มบัปเป ปารีสฯ เปลี่ยนรูปแบบการทำทีม เลิกซื้อผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ แล้วมุ่งเป้าไปที่การนำเข้านักเตะแววดีที่มีชื่อเสียงไม่มากนักแทน
ซึ่งในวันนี้ผลจากการกระทำดังกล่าวก็เริ่มออกดอกออกผลอย่างรวดเร็ว แบรดลีย์ บาร์โกลา ที่ย้ายเข้ามาในซัมเมอร์ก่อน คือผู้นำดาวซัลโวของทีมที่ 4 ประตู ส่วน ชูเอา เนเวส ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเข้ามาในตลาดรอบนี้ ก็แจ้งเกิดได้เต็มตัวจากผลงาน 4 แอสซิสต์ใน 4 นัดแรก
ที่มา : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/2814689